วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ประเภทของคอมพิวเตอร์ตามความสามารถของระบบ




            จำแนกออกได้เป็น 4 ชนิด โดยพิจารณาจาก ความสามารถในการเก็บข้อมูล และ ความเร็วในการประมวลผล เป็นหลัก ดังนี้


            1. ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer)
 หมายถึงเครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีความสามารถในการประมวล ผลสูงที่สุดโดยทั่วไปสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อ งานด้านวิทยาศาสตร์ที่ต้องการการประมวลผลซับซ้อน และต้องการความเร็วสูง เช่น งานวิจัยขีปนาวุธ งาน โครงการอวกาศสหรัฐ (NASA) งานสื่อสารดาวเทียม หรืองานพยากรณ์อากาศ เป็นต้น



            2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีส่วนความจำ และความเร็วน้อยลงสามารถใช้ข้อมูลและคำสั่งของ เครื่องรุ่นอื่นในตระกูล (Family) เดียวกันได้โดยไม่ต้องดัดแปลงแก้ไขใดๆ นอกจากนั้นยังสามารถทำงานในระบบเครือข่าย (Network) ได้เป็นอย่างดี โดยสามารถเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ที่เรียกว่า เครื่องปลายทาง (Terminal) จำนวนมากได สามารถทำงานได้พร้อมกันหลายงาน (Multi Tasking) และใช้งานได้พร้อมกันหลายคน (MultiUser)ปกติเครื่องชนิดนี้นิยมใช้ในธุรกิจขนาดใหญ่มีราคา ตั้งแต่สิบล้านบาทไปจนถึงหลายร้อยล้านบาทตัวอย่าง องเครื่องเมนเฟรมที่ใช้กันแพร่หลายก็คือ คอมพิวเตอร์ ์ของธนาคารที่เชื่อมต่อไปยังตู้ATM ละสาขาของธนาคาร ทั่วประเทศ



              3. มินิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer) ธุรกิจและหน่วยงานที่มีขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ขนาดเมนเฟรมซึ่งมีราคา แพงผู้ผลิตคอมพิวเตอร์จึง พัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีขนาดเล็กและมีราคาถูกลง เรียกว่าเครื่องมินิคอมพิวเตอร์โดยมีลักษณะพิเศษในการทำงาน ร่วมกับอุปกรณ์ประกอบ รอบข้างที่มีความเร็วสูงได้มีการใช้แผ่น จานแม่เหล็กความจุสูงชนิดแข็ง (Hard disk) ในการเก็บรักษาข้อมูลสามารถอ่านเขียนข้อมูล ได้อย่างรวดเร็ว หน่วยงานและบริษัทที่ใช้คอมพิวเตอร์ขนาดนี้ ได้แก่ กรม กอง มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ

               4. ไมโครคอมพิวเตอร์ (Micro Computer) หมายถึงเครื่องประมวลผลข้อมูลขนาดเล็กมีส่วน ของหน่วยความจำและความเร็วในการประมวลผลน้อย ที่สุดสามารถใช้งานได้ด้วยคนเดียว จึงมักถูกเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer: PC)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น